Discover posts

Explore captivating content and diverse perspectives on our Discover page. Uncover fresh ideas and engage in meaningful conversations

[สรุปเนื้อหา 5 Life Trend ที่ส่งผลกระทบต่อการทำให้แบรนด์ของเรายัง “อยู่ในชีวิต” ของลูกค้า โดยพี่แท็ป Rawit CEO Srichand & Mission to the Moon]
=========
1. ศตวรรษแห่งการรื้อโครงสร้าง (We’re in a decade of deconstruction)
- Digital Nomad คำนี้มาแรง: ทำงานออนไลน์ Work from Home/Anywhere ประชุมผ่าน Zoom วิถีการทำงานก็เปลี่ยนไป
- ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนแก่ขึ้น เด็กเกิดน้อยลง และเวลาของหายไป มันจะมีของใหม่มาแทน (เช่นเด็กหายไป หมาแมวอาจจะมาแทน)
=========
2. Interface ที่เราใช้กำลังจะเปลี่ยนไป (A great interface shift is happening)
- Bill Gates บอกไว้ว่า ในอนาคตพวก Spreadsheet, โทรศัพท์มือถือ หรือ Interface อะไรพวกนี้อาจจะไม่มีแล้ว เราจะทำงานผ่าน Agent ที่เป็นตัวกลางระหว่างเรากับ AI
- ตัวอย่าง AI Interface คือ AI PIN ของ hu.ma.me คือสามารถ Command เครื่องมือนี้ด้วยเสียง และให้มันทำสิ่งต่างๆ ให้เราได้ เช่น Scan ของที่อยู่ตรงหน้าและบอกข้อมูลต่างๆ (เช่นปริมาณ Calorie หรือปริมาณน้ำตาล)
- ภาษาต่างประเทศอาจจะไม่มีความจำเป็นในการทำงานอีกแล้ว เพราะมันมีเครื่องมือช่วยแปลให้ได้แบบ Real Time
- หนึ่งในเหตุผลที่ Sam Altman ถูกไล่ออก (คาดว่า) เพราะบอร์ดของ OpenAI เชื่อว่า Sam กำลังจะปล่อย Innovation ที่โลกยังไม่พร้อมรับ (Sam ก็เคยกล่าวว่า ไม่รู้ว่า OpenAI มันเป็น Tool หรือเป็น Creator กันแน่)
- Innovation ที่ว่ามันคือโปรเจคต์ Q-Star ที่เป็น Baby AGI (ถ้าให้เปรียบเทียบก็จะเหมือนมนุษย์ IQ 5,00 ซึ่งเขาว่า Innovation แบบนี้มีโอกาสที่จะ Wipe Out มนุษย์โลกออกไปถึง 10%
=========
3. เมื่อไหร่กันนะที่ความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นเรื่อง Meh (เป็นเรื่องไม่น่าตื่นตาตื่นใจ (When did creativity become so ‘meh’?)
- ยุคปัจจุบันหนัง Scale ใหญ่ๆ ทุนสร้างเยอะๆ มีน้อยลงมากๆ แล้ว ทุกวันนี้เงินถูกโยกไปใช้ในแง่มุมอื่นอีกแทนแล้ว คนจะคิดถึงคำว่า Creativity ในแง่มุมใหม่ๆ
- อะไรที่มีประสิทธิภาพมากเกินไป สุดท้ายจะทำให้คนเริ่มเบื่อ (เช่นยิง Ads แม่นไป คนก็จะเริ่มเบื่อ)
- พี่แท๊ปคาดว่า Out Ground & Traditional Media จะกลับมาใหม่ อย่าง Srichand ก็จะเริ่มกลับไป Sponsor คอนเสิร์ตต่างๆ มากขึ้น
- สื่อที่คนไม่เคยนึกถึงเลยเวลาทำ Media Mix คือวิทยุ
- ออนไลน์แพง และ Differentiation เริ่มยาก
=========
4. ต้องคิดมากขึ้นว่าอะไรที่รับได้/รับไม่ได้ (Think about “Elasticity of Forgiveness”)
- ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าจะเปลี่ยนไป
- ยกตัวอย่าง Starbucks ที่ฟิลาเดเฟีย (อเมริกา) ที่มีคนเข้าร้านมานั่งเฉยๆ แต่โดยผจก. Starbucks แจ้งให้ตำรวจมาไล่ออกจากร้านไป สุดท้ายเรื่องนี้เป็นไวรัล และกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ Starbucks โดนคนที่มานั่งเฉยๆ ฟ้อง และ CEO ของ Starbucks ต้องปิดทุกสาขาเพื่ออบรมพนักงานใหม่
- พี่แท็ปทิ้งคำถามปลายเปิดไว้ว่า “แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าควรจะเป็นแบบไหน?” หรือ “แล้วที่บอกว่าต้องดูแลลูกค้าให้ดี ต้องดีขนาดไหน?”
=========
5. เทคโนโลยีคือสิ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง (Technology is a massive driver of change)
- ยุคนี้เป็นยุคที่ 4 ของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด และเป็นยุคที่ผู้เล่นที่เคยเล็กอาจจะใหญ่ ผู้เล่นที่เคยใหญ่อาจจะหายไป และมีผู้เล่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
- AI เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและ AI is here to stay
- ตัวอย่างของ AI ที่น่าสนใจคือใช้ Virtual AI มาเป็นผู้ประกาศข่าว หรือที่ญี่ปุ่นใช้ AI ในการผลิตโฆษณา
- อีกตัวอย่างคือ คลิปของ Mission to the moon แบบปกติใช้เวลาในการทำ 5 ชั่วโมง แต่การเข้ามาของ AI พี่แท็ปใช้ ChatGPT + [Murf.ai](http://Murf.ai) + [Pictory.ai](http://Pictory.ai) ทำคลิปเร็วขึ้นเยอะมากๆ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
- อีกตัวอย่างในเชิงธุรกิจคือ Power BI ที่เมื่อก่อนต้องให้ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมา แต่ปัจจุบัน Microsoft มี Co-pilot ที่ช่วยสร้าง Dashboard ให้
=========
และนี่คือ 5 Life Trend ที่ส่งผลกระทบต่อการทำให้แบรนด์ของเรายัง “อยู่ในชีวิต” ของลูกค้า โดยพี่แท็ปนะครับ
เห็นด้วย/ไม่เห็นอะไร หรือมีอะไรเพิ่มเติม มา Discuss กันได้ในคอมเมนต์นะครับ 🙂
=========
เนื้อหานี้สรุปมาจากคลาสของ XMBA Executive Education by Eddu ของน้องนพ Pongsatorn
ขอบคุณรูปจาก Pongpiti Pert ฮะ!
#xmba #eddu

image

image

image

image

image
Mildred Anya added new photos to All about me
46 w

image
image
image
image

image

Special ture

image

hello

46 w - Youtube