Comment reported successfully.
Post was successfully added to your timeline!
You have reached your limit of 5000 friends!
File size error: The file exceeds allowed the limit (92 MB) and can not be uploaded.
Your video is being processed, We’ll let you know when it's ready to view.
Unable to upload a file: This file type is not supported.
We have detected some adult content on the image you uploaded, therefore we have declined your upload process.
To upload images, videos, and audio files, you have to upgrade to pro member. Upgrade To Pro
exxiq
วันนี้มีงาน World Marketing Forum ครั้งที่ 3 จัดขึ้นโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย
โดยจัดขึ้นที่อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก ในวันที่ 16-17 พ.ย. 2566
พาร์ตหนึ่งที่น่าสนใจคือ “คุณฟีลิป คอตเลอร์ (Philip Kotler)” บิดาการตลาดสมัยใหม่ ผู้เขียนหนังสือเล่มดังอย่าง Marketing 5.0
ได้ Video-in เข้ามาในช่วงหนึ่งของงานด้วย
คุณฟีลิป คอตเลอร์ พูดเรื่องอะไรบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ ใน 9 ข้อ
1. ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ดีมากขึ้น ครบถ้วนขึ้น
ผู้บริโภคสามารถค้นหาบริษัท เพื่อดูผลิตภัณฑ์ ราคา ความคิดเห็นของผู้บริโภคคนอื่น ๆ เกี่ยวกับบริษัทหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้
อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบ ให้เห็นการขายผลิตภัณฑ์เดียวกัน ในราคาที่ต่ำกว่า
ดังนั้นบริษัทจะต้องทำให้ลูกค้าพึงพอใจในตัวผลิตภัณฑ์ ไม่เช่นนั้นลูกค้าอาจแสดงความคิดเห็น และแสดงมุมมองที่ไม่ดีต่อบริษัทได้
2. ในขณะเดียวกันนักการตลาดก็ฉลาดขึ้น
นักการตลาดมีข้อมูลมากขึ้นกว่าที่เคยมีในอดีต ซึ่งเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความต้องการของตลาด คู่แข่ง ช่องทางการตลาด
นักการตลาดทุกวันนี้ยังสามารถเข้าถึง และรู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับคู่แข่งมากขึ้น
เช่น โฆษณาหรือราคา ทำให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที
อีกทั้งนักการตลาดจะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น เพราะมีการใช้ระบบการตลาดอัตโนมัติ เข้ามาช่วยทำงานมากขึ้น
รวมถึงการซื้อโฆษณาจาก Facebook, Google และช่องทางอื่น ๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้มากกว่าสมัยก่อน
3. อีคอมเมิร์ซจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าจากที่บ้านได้ และถึงแม้ว่ายอดขายในร้านจะมีสัดส่วนมากกว่ายอดขายออนไลน์ แต่ยอดขายออนไลน์กลับมีการเติบโตที่เร็วกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโรคระบาดที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์และบริษัทต่าง ๆ ต้องทำงานและแก้โจทย์กันหนักมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์
จากการเติบโตที่สำคัญนี้ ทำให้แบรนด์เริ่มหันมาขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง โดยไม่ผ่านการฝากขายหน้าร้าน
แต่เปลี่ยนเป็นการเปิดร้านออนไลน์เป็นของตัวเองแทน
4. อนาคตของการตลาดรูปแบบใหม่ ได้แก่
- AI (Social, Digital, Algorithms)
- Marketing Automation
- Customer Journey Mapping
- Touchpoint Marketing
- Personas Marketing
- Content Marketing
- Influencer Marketing
5. “MarTech” หรือเทคโนโลยีการตลาด เป็นเรื่องสำคัญมากต่อจากนี้
อย่างการเข้ามาของ AI, ChatGPT และการตลาดเสมือนจริง จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการตลาดมากขึ้น และเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการทำธุรกิจ
เช่น
- ปัญญาประดิษฐ์ (Al) และอัลกอริทึม
- สื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย
- การจดจำเสียงและใบหน้า
- Big Data และการเรียนรู้ของแช็ตบอต,
- AR และ VR เทคโนโลยีเสมือนจริง
- Intelligent Virtual Agents เอเจนซีการตลาดในโลกเสมือน
- เครื่องจักรอัตโนมัติ (หุ่นยนต์ โดรน ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง)
- ระบบเซนเซอร์ และ Internet of Things
6. ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ทุกคนต้องช่วยกันและบริษัทต้องหันมาใส่ใจความยั่งยืนมากขึ้น เช่น ลดการใช้พลาสติก การรีไซเคิล ลดการใช้รถยนต์ และลดการบินให้น้อยลง
พวกนี้จะเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืนที่คนสมัยใหม่ให้ความสำคัญมาก และจะมีอิทธิพลต่อการทำการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
7. หลักการสำคัญของการตลาดยุคใหม่ ได้แก่
- ตั้งเป้าหมายในการตอบสนอง หรือสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- กลยุทธ์ 4A’s (รับรู้, เข้าถึง, ยอมรับ และความสามารถในการจ่าย)
- กลยุทธ์ 4P's (สินค้า, ราคา, สถานที่ และโปรโมชัน)
- กลยุทธ์ 4C (บริษัท, ลูกค้า, ผู้ร่วมงาน และคู่แข่ง)
- การทำ STP การแบ่งส่วนตลาด, การกำหนดเป้าหมาย และการวางตำแหน่งของตัวเอง
- กลยุทธ์ 5A's (สร้างการรับรู้, ดึงดูดความสนใจ, นำเสนอคำตอบของคำถาม เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจ, การตัดสินใจซื้อ และแนะนำให้เกิดการบอกต่อ)
- กระบวนการทางการตลาดเริ่มจาก:
Market Research -> การทำ STP (Segmenting-Targeting-Positioning)
-> Targeting Marketing -> Value Proposition -> Marketing Plan -> Implementing -> Control
8. คอนเซปต์หรือแนวคิดใหม่ ๆ ที่กำลังเข้าสู่โลกการตลาด ได้แก่
- Atmospherics บรรยากาศ
- Societal Marketing การตลาดที่เอาความต้องการของสังคมเป็นตัวตั้ง
- Demarketing การลดการทำการตลาด คือทำน้อย ๆ แต่มีประสิทธิภาพมาก ๆ
- Regenerative Marketing การตลาดที่ปรับแบรนด์ให้มีคุณค่าต่อสังคม
9. เทรนด์การตลาดในอนาคต
- ผู้ซื้อจะสามารถเลือกแบรนด์ที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือพนักงานขาย
- ความสำเร็จทางการตลาดจะขึ้นอยู่กับ การกำหนดราคาที่ฉลาด การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการมีช่องทางตลาดที่โดดเด่น
- ความครีเอทิฟทางการตลาดสำคัญ ต้องสร้างการตลาดเชิงประสบการณ์ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม
- นักการตลาดจะใช้ประโยชน์จาก Customer Journey Mapping, Touchpoint Marketing, Personas, Content และ Influencer Marketing
พูดง่าย ๆ คือ นักการตลาดต้องรู้ลักษณะความต้องการของลูกค้า และต้องรู้จังหวะในการเข้าหาลูกค้า
ซึ่งตัวอินฟลูเอนเซอร์ และคอนเทนต์ของอินฟลูเอนเซอร์ จะมีส่วนสำคัญในการสื่อสาร
- AI และ Machine Learning จะมีส่วนเป็นอย่างมาก ในการระบุและวิเคราะห์หาคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ดีที่สุด
สุดท้าย คุณฟีลิป คอตเลอร์ กล่าวว่า
“ภายใน 5 ปี ถ้าธุรกิจของคุณยังอยู่ในจุดเดิมที่คุณอยู่ในตอนนี้ คุณอาจจะเจ๊งเลยก็ได้
ถ้าคุณไม่เพิ่มเติมในเรื่องความยั่งยืน เข้าไปในตัวธุรกิจของคุณ คุณจะไปไม่รอดแน่นอน”
Delete Comment
Are you sure that you want to delete this comment ?
Mark Rock
Delete Comment
Are you sure that you want to delete this comment ?
Mark Rock
Delete Comment
Are you sure that you want to delete this comment ?
Shaima Baddie
Delete Comment
Are you sure that you want to delete this comment ?